VL หุ้นเด่นอัพไซด์สูง 50% ค่าระวางเรือดันกำไรงาม
ลงวันที่ 29/08/2562
ลงวันที่ 29/08/2562
ผู้สื่อข่าว มิติหุ้น รายงานว่า นักวิเคราะห์หลักทรัพย์ประเมินพื้นฐานหุ้น บริษัท วี.แอล.เอ็นเตอร์ไพรส์ จำกัด (มหาชน) VL โดยมองว่า สัญญาณทางเทคนิคราคาหุ้นเตรียมพุ่งแรง กลุ่มเดินเรือเดินน้ำมันเกือบทั้งหมดด้วยปัจจัยบวกที่เข้ามาอย่างชัดเจนในช่วงนี้ อย่างแรกคือค่าระวางที่พุ่งขึ้นสูงสุดตั้งแต่ปี 2014 ซึ่งจะทำให้เกิดการเก็งกำไรราคาหุ้นกันตามมา
นอกจากนี้ราคาน้ำมันที่ต่ำลงมากส่งผลดีต่อต้นทุนการเดินเรือด้วยเช่นกัน ดังนั้นครึ่งปีหลังจึงเป็นช่วงที่ผลประกอบการฟื้นตัวดีกว่าครึ่งแรกอย่างแน่นอน
อย่างไรก็ดี VL หุ้นเดินเรือขนส่งก๊าซทางทะเลน้องใหม่ เข้าตลาดมายังไม่ได้แสดงความแรงแต่อย่างใด ด้วยราคาจอง 1.75 บาท แต่หากเปรียบเทียบหุ้นกลุ่มถือว่า VL มีค่าพีอีที่ต่ำสุดเพียง 15 เท่า และงบการเงินถือว่าแข็งแกร่ง มีกำไรสวยงาม ครึ่งปีหลังจะดีขึ้นไปอีก เพราะต้นทุนน้ำมัน ต้นทุนดอกเบี้ยลดลงมาก คาดกำไร new high เฉียด 100 ล้านบาท และมีราคาเป้าเฉลี่ยสูง 2.30 บาท มี Upside ระดับ 50%
ทั้งนี้หากประเมินตามสัญญาณเทคนิคกราฟตั้งลำ W-shape หรือกราฟ VL กำลังตั้งทรงในแนวล่าง ตรงนี้ถือว่าความเสี่ยงต่ำ เพราะ RSI มี Divergence แล้วเป็นการเตรียมขึ้น ขณะที่กราฟแท่งเทียนเกิดรูปแบบ W-shape มีต้านสำคัญ 1.56 บาท ถ้าผ่านได้ไปเจอกันที่ปีกขวา 1.70 บาท
ด้านนางชุติภา กลิ่นสุวรรณ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วี.แอล. เอ็นเตอร์ไพรส์ จำกัด (มหาชน) หรือ VL กล่าวก่อนหน้านี้ว่าจากประสบการณ์ในการให้ธุรกิจการให้บริการขนส่งทางทะเลมากกว่า 20 ปี โดยในปัจจุบันบริษัทมีเรือเพื่อใช้ในการประกอบธุรกิจทั้งหมด 13 ลำ และบริษัทยังมีน้ำหนักบรรทุกเรือรวม 40,757 เดทเวทตัน (DWT) และมีความสามารถในการบรรจุน้ำมันเพื่อขนส่งรวมอยู่ที่ 41,523.7 ลูกบาศก์เมตร
ทั้งนี้บริษัทมีความสามารถในการขนส่งติดอันดับ 4 ของประเทศ และยังมีอายุกองเรือเฉลี่ย 16 ปี ซึ่งถือว่ากองเรือมีอายุน้อย ทำให้มีค่าใช้จ่ายในการซ่อมบำรุงที่ค่อนข้างต่ำ พร้อมกันนี้บริษัทยังทีบุคลากรที่มีความรู้และประสบการณ์ รวมถึงความชำนาญในธุรกิจขนส่ง ส่งผลใ้บริษัทมีอัตราการเกิดอุบัติเหตุระหว่างขนส่งของบริษัทอยู่ในระดับต่ำ รวมทั้งยังมีอัตราการสูญเสียน้ำมัน (Oil Loss) ระหว่างการขนส่งอยู่ในระดับต่ำ
สำหรับภาวะอุตสากรรม ซึ่งประมาณการใช้พลังงานในอนาคต สะท้อนให้เห็นว่าการใช้น้ำมันยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง และประมาณการความต้องการใช้น้ำมันในอนาคตยังมีการเติบโต โดยในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา มีปริมาณการผลิต และการบริโภคเติบโตขึ้น เนื่องจากการขยายตัวของเศษฐกิจ และการบริโภคภาคเอกชนโดยเฉพาะการใช้ในภาคขนส่ง
“การให้บริการภายในประเทศยังถือว่ามีความมั่นคงของปริมาณสูงในระดับหนึ่ง เนื่องจากบริษัทจะมีการทำสัญญารับขนส่งสินค้าล่วงหน้า (Contract of Affreightment หรือ “COA”) และการทำสัญญาแบบเช่าเหมาลำ (Time Charter) เพื่อช่วยกำหนดปริมาณการขนส่งสินค้าขั้นต่ำ โดยการทำสัญญาดังกล่าวจะช่วยยืนยันปริมาณงานในมือของบริษัทได้ และส่วนใหญ่บริษัทจะทำสัญญาระยะยาวประมาณ 1-3 ปี ประกอบกับบริษัทยังมีจุดเด่นอีกอย่าง คือนโยบายการจ่ายเงินปันผลในอัตราไม่น้อยกว่าร้อยละ 40 ของกำไรสุทธิของงบการเงินเฉพาะบริษัท” นางชุติภากล่าว
ข้อมูลจาก